“บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสร กว่างโซ้งมหาภัย ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ร่ายยาวหลังประชุมเรื่องลิขสิทธิ์ไทยลีกซีซั่นนี้
อีกหนึ่งควันหลงหลังจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซีซั่นที่จะถึงนี้มีผู้ประมูลเเค่รายเดียวเเละมีมูลค่าเเค่ 50 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยสูงถึง 1,000 กว่าล้านบาท
เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในรอบวันที่ผ่านมา ที่เเต่ละสโมสรส่งตัวเเทนระดับเฮดทีมมาร่วมประชุมทั้ง นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม, นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ รวมถึง นายมิติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรลีโอ เชียงราย เป็นต้น
ด้าน “บิ๊กฮั่น” ที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าประตูครั้งนี้ ชำแหละเรื่องนี้ไว้ว่า
“พวกเรามากันวันนี้เพื่อทำการปฏิวัติสมาคมฟุตบอล
นี่คือ 1 ในประโยคเกริ่นถึงเหตุและผลของการประชุม 16 ทีมไทยลีกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา
การประชุมในวันนี้เรื่องหลักคือทางคุณเนวิน ต้องการนำเสนอให้ไทยลีกแยกตัวออกจากสมาคม โดยให้ 16 สโมสรบริหารกันเองตามหลักสากล
โดยทางสมาคมได้รับลูกมาก่อนประชุมแล้วจึงนำเสนอสไลด์ นำเสนอค่าใช้จ่ายของการจัดการแข่งขันลีกไทยทั้ง 3 ระดับ คือจำนวน 294.6 ล้านบาท
ถ้าเฉพาะไทยลีก 1 คือจำนวน 165.8 อันนี้คือค่าจัดการแข่งขันไม่รวมค่าใช้จ่ายที่จะเป็นเงินสนับสนุนทีมน้ะครับ
หลังจากที่ได้เเสดงข้อมูล ทางสมาคมก็ยอมรับกับทางสมาชิกตรงๆ ว่าไม่มีเงิน โดยหาคนประมูลได้มูลค่าสูงสุดแค่ 50 ล้านบาท
โดยข้อมูลนี้ก็เป็นที่รับทราบก่อนมาประชุมอยู่แล้ว ทางแกนนำอย่างคุณเนวินก็นำเสนอไอเดียการแยกลีก
ก่อนอื่นเลยคือผมสนับสนุนไอเดียการแยกลีก 100% ตามหลักสากล เพราะหนึ่งในสาเหตุหลักที่ผ่านมาคือเราไม่รู้เลยว่างบประมาณที่ทาง แพลนบีหามานั้นถูกนำไปใช้จ่ายอย่างไร ยังไม่รวมถึงข้อกังวลและนำเสนอ สมาคมไม่เคยชัดเจนกับเรื่องนี้
ผมขอสรุปประเด็นหลักๆ ที่หลายทีมนำมาถกกันดังนี้ครับ
1. มิตติ: ก่อนที่จะแยกตัวสามารถนำเสนอได้หรือไม่ว่าสัดส่วนที่ปีนี้ T1 จะได้รับจากเงินที่แพลนบีไปหามา 500 ล้านจะได้ได้เท่าไหร่ หรือปกติในปีก่อนๆ สัดส่วนคือเท่าไหร่
ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีคำตอบจากสมาคม
2. เราจะแยกมาทั้ง 3 ลีก หรือแค่ T1
ประเด็นนี้ทางคุณเนวินได้เป็นตัวแทนและสรุปว่า เอาเฉพาะ T1
ส่วน T2,3 ให้สมาคมเอาไปดูแล เรา(T1) ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน
3. การที่แยกตัวออกจากสมาคมจะทำให้เกิดการติดขัดหรือผิดกับข้อบังคับกับการรับการสนับสนุนจากภาครัฐหรือไม่
สมาคมได้ตอบว่าเป็นเงินรางวัลและเป็นสัดส่วนที่น้อย
4.การประชุมในรอบนี้ต้องตัดสินใจเลยหรือไม่เพราะข้อมูลและเหตุผลในการตัดสินใจนั้นไม่เพียงพอ
แกนนำในที่ประชุมได้ตอบว่าต้องรีบตัดสินใจ ต้องวันนี้ เพื่อเอาหลักการนี้ไปทำงานลงรายละเอียดต่อ
5.การแยกลีกออกจากสมาคมควรมีการชี้แจงหรือเเสดงความรับผิดชอบให้กับสังคมหรือไม่ เพื่อถอดบทเรียนว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงผลักภาระให้กับสโมสรสมาชิกแบบปุบปับอย่างนี้ อีก 40 วันจะเริ่มเตะอยู่แล้ว
6.วันนี้ฐานรากของฟุตบอลไทยจะเกิดอะไรขึ้น สมาคมยังมีความสามารถในการบริหารลีก 2,3 หรือไม่ ทำไมสโมสรเล็กๆ ไม่สามารถตัดสินใจหรือบริหารเองได้
เหล่านี้คือประเด็นที่ถกกัน ซึ่งในส่วนตัวของผมเองนั้น คงไม่อาจก้าวล่วงการตัดสินใจของเพื่อนสโมสรสมาชิกได้ ผมยืนยันว่าลีกต้องแยกจากสมาคม แต่มันเป็นช่วงเวลาที่ถูกต้องหรือไม่ นายกสมาคมจะอยู่ไม่ถึงจบลีกฤดูกาลนี้ด้วยซ้ำ
11 เสียงคือเห็นชอบในหลักการเพื่อให้รักษาการประธานไทยลีก ไปแจ้งต่อนายกและสภากรรมการในวันที่ 3 กรกฎาคม
อีก 5 เสียงคผมคงตอบแทนทุกคนไม่ได้ แต่พวกเราไม่ใช่ไม่เห็นชอบ แต่มันมีเวลาให้ตัดสินใจน้อยไป
เงิน 500 ล้านจะถูกนำไปใช้อย่างไรกับอีกแค่ไม่กี่เดือนของสมาคมชุดนี้
การโหวตประธานไทยลีกคนใหม่จะโปร่งใสหรือไม่หรือจะมีการลอบบี้กันเกิดขึ้นอีกครั้ง อย่าลืมว่าไทยลีกคือ core โปรดัก หรือผลิตภัณฑ์สร้างรายได้หลักของสมาคม
การนำไทยลีกแยกตัวออกมาจากสมาคมนั้นเป็นการกอดผลประโยชน์หลักไว้ แล้วทำให้นายกสมาคมคนต่อไปบริหารได้ยากหาเงินเข้าสมาคมได้น้อยลงหรือไม่
สถานการณ์วันนี้วิกฤติ แต่ผู้อำนาจมองเห็นปัญหามาก่อนแล้วปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้แล้วผลักภาระมาให้สมาชิกแก้ไขมันไม่ยุติธรรมครับ โดยเฉพาะกับก้อน 500 ล้านบาทที่ไม่ชี้แจงว่าไปทำอะไร
อุตสาหกรรมฟุตบอลไทยในวันนี้สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนกว่า 30,000 ล้านบาท จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย เราจะผ่านวิกฤตินี้ ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน ทั้งทีมเล็ก ทีมใหญ่ วิสัยทัศน์ของสมาคมเปรียบอุตสาหกรรมฟุตบอลไทยเป็นภูเขาน้ำแข็ง วันนี้ฐานรากไม่แข็งแรง ยอดเขาจะมั่นคงได้อย่างไร
การพัฒนาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน ตัวตึกหรือวัตถุ แต่นักกีฬาอดตาย การสร้างโค้ชให้เยอะ แต่สโมสรไม่มีเงินจ้าง มันจะมีประโยชน์อะไรครับ การลำดับความสำคัญในการใช้งบประมาณต้องถึงรากฐาน ถึงมือชาวบ้านคนฟุตบอล
ผมอยากเห็นทุกคนกลับมาทำ มาดูฟุตบอลไทยอย่างมีความสุขอีกครั้ง